Skip links

“อภิสิทธิ์ชน” อาจทำให้ทุกอย่างพังทลาย เพราะคนพิเศษที่ไม่ยอมกักตัว

จากกรณี “อภิสิทธิ์ชน” เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องผ่าน State Quarantine ส่งผลเสียไม่ต่างกับองค์กร ที่พนักงานระดับ Top Sales จะเข้าออฟฟิศกี่โมงก็ได้ตามใจฉัน

ข่าวเมื่อวานนี้กับเคสผู้ป่วยใหม่เป็นทหารอียิปต์ และอีกคนเป็นเด็กที่เดินทางมากับคณะทูต สองคนนี้ได้รับสิทธิ์เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว ทำให้ตอนนี้มีคนเสี่ยงติดเชื้อจำนวนมาก! ในทุกพื้นที่ที่สองคนนี้ได้เดินทางไป ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้าในระยอง และคอนโดในกรุงเทพฯ

นี่อาจเป็นสาเหตุของการระบาดโควิด-19 ครั้งใหม่ในประเทศเราอีกรอบ! นั่นหมายความว่าความพยายามของคนเกือบทั้งประเทศที่ปฏิบัติตามกฏไม่ว่าจะเป็นเช็คอิน เช็คเอาท์ตามร้านค้า และเคร่งครัดใส่หน้ากากอนามัยไปทุกที่ อาจ “หมดความหมาย” และ “ไร้ค่า” ไปในพริบตา!

กลับมามองในฝั่งองค์กร จะพบว่ามักเกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันคือ กลุ่ม “อภิสิทธิ์ชน” ที่บริษัทมักให้อภิสิทธิ์โดยทั้งเต็มใจและไม่ตั้งใจหรืออาจหยวนๆให้ คนพวกนี้อาจเป็นพวกกลุ่ม Top Sales, Top Performance หรือ Top อะไรก็ตามที่บริษัทรู้สึกว่าเค้ามีค่ากับบริษัท และไม่อยากเสียไปให้องค์กรอื่น

จนบางครั้งทำให้เกิดแนวการปฏิบัติแบบผิดๆ เช่น ตามปกติพนักงานเซลส์ทุกคนต้องเข้าออฟฟิศมาทำรายงานตอนเช้าก่อนออกไปหาลูกค้า แต่คนกลุ่มนี้อาจไม่ต้องเข้าตราบใดที่ยังทำยอดขายได้สูง อยากมาเมื่อไหร่ก็มา หัวหน้าก็ไม่ว่า HR ก็ถอย…

ถ้าบริษัทยังมีวิธีปฎิบัติแบบนี้อยู่ ไม่นานคนที่อยู่ในกฏระเบียบและกติกาก็อาจเบื่อหน่ายและหมดใจกับระบบสองมาตรฐาน
ผลเสียต่อองค์กรคงไม่ต่างกับเคสผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และคนในองค์กรก็คงรู้สึก “หัวร้อน” ไม่แตกต่างจากเราๆ ที่ใส่หน้ากากอนามัย เช็คอินไทยชนะกันอยู่ทุกวี่วัน

 


 

ติดตามเรื่องราวของโลกธุรกิจ ผ่านมุมมองของ HR ได้ที่
https://web.facebook.com/prtr.thailand/

เมื่อตรรกะความคิดบกพร่องผิดปกติ อาจส่อเจตนาบิดเบือน

Top