Outsource Recruitment ทางลัดสู่การหาคนที่ใช่ในเวลาที่สั้นกว่า
หลายองค์กรยังเชื่อว่าการหาคนด้วยทีม HR ภายในจะประหยัดที่สุดและควบคุมได้ง่าย แต่ความจริงกลับไม่ใช่เรื่องง่าย การสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพโดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญอย่างหัวหน้าแผนกหรือผู้บริหาร (leadership hiring) มักต้องใช้เวลานานและทรัพยากรจำนวนมาก ทีม HR ต้องโพสต์ประกาศ หาผู้สมัคร คัดกรองสัมภาษณ์ และประสานงานทุกขั้นตอน แม้จะมีระบบ ATS หรือเทคโนโลยีช่วยจัดการ กระบวนการก็ยังซับซ้อนและใช้เวลามาก
มีองค์กรหนึ่งที่พยายามทำ recruitment ด้วยทีม in-house เพื่อหาผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ตรงตามโจทย์ ต้องใช้เวลานานกว่า 3 เดือน แต่สุดท้ายก็ได้ผู้สมัครเพียงไม่กี่คน และหลายคนไม่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า เวลาและต้นทุนไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่คือโอกาสขององค์กรที่จะได้คนที่ใช่เร็วกว่า
ความแตกต่างระหว่าง In-House กับ Outsource Recruitment
การสรรหาผู้สมัครในองค์กรเอง (in-house recruitment) มีข้อดีเรื่องการเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและสามารถคัดเลือกเบื้องต้นได้ตรงตามโจทย์ แต่ข้อจำกัดคือ ความเร็วและจำนวนตัวเลือก มักไม่เพียงพอหากต้องหาคนจำนวนมาก หรือตำแหน่งที่ต้องการทักษะเฉพาะทาง
ในทางกลับกัน การใช้บริการ outsource recruitment ผ่าน recruitment agency ช่วยเพิ่ม candidate pool ให้กว้างขึ้น เพราะบริษัทเหล่านี้มีฐานข้อมูลผู้สมัครที่หลากหลายและเข้าถึงคนเก่งที่ไม่เปิดรับสมัครทั่วไป นอกจากนี้ พวกเขามีความเชี่ยวชาญด้าน leadership hiring และสามารถคัดกรองผู้สมัครให้ตรงกับ requirement ขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างหนึ่งคือธุรกิจ SME ที่เคยใช้ in-house recruitment สำหรับตำแหน่งหัวหน้าทีม IT แต่หลังจากลองใช้ outsource recruitment พวกเขาได้ผู้สมัครคุณภาพในเวลาเพียงครึ่งหนึ่งของที่เคยใช้ และลดต้นทุนเวลา HR ลงเกือบ 40% ผลลัพธ์นี้ไม่ได้หมายถึงการลดคุณภาพ แต่เป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเร็วกว่า
การลดเวลาและต้นทุนในการหาคน
หนึ่งใน pain point ของ HR คือ เวลาที่เสียไปกับการค้นหาและคัดกรองผู้สมัคร ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ตำแหน่งว่างนาน แต่ยังส่งผลต่อ productivity ของทีมและความต่อเนื่องของงาน
Outsource recruitment ช่วยแก้ปัญหานี้ได้โดยการนำกระบวนการหลายขั้นตอนออกจากมือ HR และมอบให้ผู้เชี่ยวชาญทำงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การโพสต์ตำแหน่ง การสื่อสารกับผู้สมัคร การคัดเลือกเบื้องต้น ไปจนถึงการประเมินทักษะและความเหมาะสม นั่นหมายถึง HR มีเวลามุ่งเน้นเรื่อง strategy และ development ของทีมมากขึ้น
ยกตัวอย่างจริง มีองค์กรขนาดกลางที่ต้องสรรหาพนักงานฝ่ายขายจำนวน 15 คน โดยใช้ in-house recruitment พวกเขาต้องใช้เวลานับเดือน แต่เมื่อใช้บริการ outsource recruitment พวกเขาได้ผู้สมัครครบตามต้องการภายใน 3 สัปดาห์ และยังได้ผู้สมัครที่มีประสบการณ์ตรงตรงตาม requirement ของตำแหน่ง
Outsource Recruitment เพิ่มโอกาสได้คนที่เหมาะสม
การได้ผู้สมัครที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นการจัดการอย่างเป็นระบบ recruitment agency มีวิธีเข้าถึงผู้สมัครที่อาจไม่ได้หางานใน portal ทั่วไป มี network ของผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ
สำหรับตำแหน่งสำคัญ เช่น leadership hiring การหาผู้ที่เหมาะสมเร็วจะช่วยองค์กรรักษา momentum ของโครงการและการพัฒนาแผนกลยุทธ์ การใช้ outsource recruitment จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็ว แต่เป็น การสร้างคุณค่าให้กับองค์กรอย่างแท้จริง
มีบริษัทหนึ่งต้องการหัวหน้าทีมฝ่ายวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญต่อการสร้างนวัตกรรม การใช้ in-house recruitment ทำให้เสียเวลาเกือบ 2 เดือน ในขณะที่ outsource recruitment ผ่าน agency มืออาชีพ ทำให้ได้ผู้สมัครที่เหมาะสมภายใน 2 สัปดาห์ และช่วยลดความเสี่ยงที่ตำแหน่งจะว่างนานเกินไป
การลงทุนที่คุ้มค่า
บางองค์กรอาจลังเลเรื่องค่าใช้จ่ายของ outsource recruitment แต่หากเปรียบเทียบกับเวลาที่ HR ต้องเสียไป ต้นทุนที่เกิดจากตำแหน่งว่าง หรือความผิดพลาดในการคัดเลือกผู้สมัคร outsource recruitment กลายเป็น การลงทุนที่คุ้มค่า
นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว การสรรหาผู้สมัครที่ตรงตาม requirement ยังช่วยลด turnover และเพิ่ม retention ของพนักงาน ทำให้ HR สามารถวางแผนพัฒนาทีมและบริหารคนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คำถามคือ หากองค์กรยังใช้วิธีสรรหาแบบ in-house อยู่ตลอดเวลา คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่า คุณกำลังได้คนที่ดีที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุด?
สร้างทีมที่ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ด้วย Outsource Service จาก PRTR ไม่ใช่แค่ลดค่าใช้จ่าย แต่เป็นการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ และเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมของคุณ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ Outsource ฟรีวันนี้ เพื่อหาโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ