ลดต้นทุนก่อนเริ่มปีใหม่ ด้วยกลยุทธ์จากบริษัท Outsource ที่คุมงบได้จริง
เมื่อ “งบแรงงาน” กลายเป็นโจทย์ใหญ่ในทุก Q4
ทุกครั้งที่ไตรมาสสุดท้ายของปีมาถึง ทีม HR และฝ่ายการเงินมักต้องนั่งโต๊ะเดียวกันเพื่อคำนวณ “ต้นทุนแรงงาน” สำหรับปีถัดไป ว่าจะเพิ่มคนได้แค่ไหน จะขึ้นเงินเดือนเท่าไร หรือควรตัดค่าใช้จ่ายส่วนใดเพื่อให้แผนงบยังไปต่อได้
แต่ในความเป็นจริง หลายองค์กรต้องเผชิญกับต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นทุกปี ทั้งค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้น สวัสดิการที่ต้องแข่งขันเพื่อดึงคนเก่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝง เช่น การฝึกอบรม การลาออก และการสรรหาซ้ำ
ทั้งหมดนี้ทำให้หลายบริษัทเริ่มหันมามอง “บริษัท outsource” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์บริหารงบประมาณ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้ โดยไม่ต้องเพิ่มภาระต้นทุนถาวรในระยะยาว
Outsource ไม่ได้แปลว่า “ลดคน” แต่คือ “เพิ่มความคล่องตัวทางงบประมาณ”
หลายคนยังเข้าใจผิดว่า outsource คือการลดพนักงานประจำเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่แท้จริงแล้ว มันคือวิธีบริหารงบอย่างมีกลยุทธ์ โดยเฉพาะในช่วง Q4–Q1 ซึ่งองค์กรต้องวางแผนทรัพยากรบุคคลและการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับเป้าหมายปีใหม่
บริษัท outsource ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้องค์กรจัดสรร “workforce” ได้ยืดหยุ่นขึ้น เช่น
บางตำแหน่งอาจเหมาะกับการจ้างระยะสั้นในโครงการเฉพาะกิจ ขณะที่บางงานสามารถโอนภาระไปให้ทีมภายนอกดูแลทั้งหมด เพื่อให้พนักงานหลักได้โฟกัสกับงานที่สร้างมูลค่าโดยตรง
นั่นหมายความว่า องค์กรยังได้ “ผลงานเท่าเดิม” แต่ด้วยต้นทุนที่ “คุมได้มากกว่าเดิม” ซึ่งตรงกับแนวคิดของ cost efficiency ที่กลายเป็นหัวใจของการบริหารงบในยุคเศรษฐกิจผันผวน
จากต้นทุนคงที่ สู่ต้นทุนยืดหยุ่น: จุดเปลี่ยนของการวางแผนงบ
หนึ่งในปัญหาของการจ้างงานแบบดั้งเดิม คือ “ต้นทุนคงที่” ที่ไม่ยืดหยุ่นพอจะรับมือกับความไม่แน่นอนของธุรกิจ เช่น ช่วงที่ยอดขายตก แต่ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรยังคงเท่าเดิม
ในทางกลับกัน การใช้บริการจาก บริษัท outsource ช่วยให้ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนเป็น “ต้นทุนผันแปร” (variable cost) ซึ่งจะเพิ่มหรือลดตามปริมาณงานจริง ทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์งบประมาณได้แม่นยำขึ้น และไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในระยะยาว
โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำ budget planning การวางแผนแรงงานล่วงหน้าพร้อมแนวทาง outsource จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารต้นทุนอย่างยั่งยืน
เปรียบเทียบต้นทุนจริง: จ้างตรง vs ใช้บริษัท Outsource
ในหลายกรณี การจ้างพนักงานประจำเพิ่มหนึ่งคนไม่ได้มีแค่ค่าแรง แต่ยังรวมถึงสวัสดิการ ภาษี ประกันสังคม อุปกรณ์ทำงาน และต้นทุนด้านการบริหารจัดการอื่น ๆ ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดแล้ว อาจสูงกว่าค่าจ้างพื้นฐานถึง 1.5–2 เท่า
ในขณะที่การใช้บริการจาก บริษัท outsource จะรวมต้นทุนเหล่านี้ไว้เรียบร้อยในรูปแบบสัญญาเดียว ทำให้องค์กรสามารถควบคุมงบได้ชัดเจน รู้ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า และไม่ต้องรับภาระเรื่องเอกสารหรือการบริหารคนโดยตรง
ยิ่งไปกว่านั้น บางองค์กรยังพบว่า การใช้ทีม outsource ช่วยลดภาระของ HR ลงได้มาก เพราะไม่ต้องใช้เวลาสรรหาหรือจัดการเรื่องสัญญาจ้างซ้ำซ้อนในแต่ละรอบปี
Outsourcing กับการวางแผนงบปีใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Q4 ไป Q1 คือเวลาสำคัญที่สุดของการจัดทำงบประมาณและวางแผนบุคลากร หลายองค์กรใช้เวลาช่วงนี้ประเมินว่า งานใดควรคงไว้ในทีมหลัก และงานใดสามารถโอนไปให้ บริษัท outsource จัดการแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุน แต่ยังช่วยให้ผู้บริหารมีภาพชัดของงบประมาณทั้งปี ว่าสามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ตามสถานการณ์จริง โดยไม่กระทบคุณภาพงานหรือความต่อเนื่องของธุรกิจ
พูดง่าย ๆ คือ “การใช้ outsource ไม่ได้แค่ลดรายจ่าย แต่ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมงบประมาณขององค์กร”
PRTR: บริษัท Outsource ที่เข้าใจการบริหารงบและคนไปพร้อมกัน
PRTR ในฐานะ บริษัท outsource ชั้นนำที่ทำงานกับองค์กรขนาดใหญ่และ SME ทั่วประเทศ เข้าใจดีว่าการบริหารคนคือหัวใจของการบริหารงบประมาณ
เราพัฒนาบริการ Outsourcing ครบวงจรที่ช่วยองค์กรจัดการงานด้านบุคลากรได้อย่างยืดหยุ่น ตั้งแต่การจัดหาพนักงานชั่วคราว งานโครงการระยะสั้น ไปจนถึงการดูแลด้าน payroll และ workforce management
ทั้งหมดนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด cost efficiency ที่ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมต้นทุนแรงงานได้อย่างโปร่งใส วัดผลได้จริง และพร้อมปรับเปลี่ยนตามแผน budget planning ของปีถัดไป
เพราะสำหรับ PRTR การวางงบที่ดีไม่ใช่แค่ “ใช้เงินอย่างประหยัด” แต่คือ “ใช้คนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกบาทของงบประมาณ”
หากองค์กรของคุณกำลังวางแผนงบประมาณปีใหม่
และมองหาวิธีเพิ่มกำลังคนโดยไม่เพิ่มต้นทุน
PRTR พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบโซลูชัน Outsourcing ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
