Skip links

เป็นนักบริหารที่ดี ลองดู Larry Page เป็นตัวอย่าง

ถ้าใครที่สงสัยว่า Larry Page เป็นใคร แอดมินขออธิบายง่าย ๆ ว่า Larry Page เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Google และยังเป็นผู้บริหารของ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิ้ลอีกด้วย

 

พอดีได้มีโอกาสเข้าไปอ่านแล้วความคิดของเขา อ่านแล้วได้ข้อคิดสำคัญในการทำงานของ Larry Page เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

1. Don’t delegate. นักบริหารทั่วไปชอบ “มอบหมายงาน” ให้คนอื่นทำ แต่ลาร์รี่บอกว่าคุณควรจะทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมันจะทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น (ถ้าทำเองไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีค่อยมอบหมายงานให้คนอื่นทำ ซึ่งจะตามมาด้วยการเสียเวลาของทุกฝ่ายในการตามงาน , ประชุม , พิจารณา , ตัดสินใจเคาะว่าจะเอาอะไรไม่เอาอะไร) … ผมเสริมนิดนึงว่าถ้าในบริษัทมีแต่คนมอบหมายงานให้คนอื่นทำ เท่ากับว่าคนในบริษัทนั้นทำหน้าที่ “นายหน้า” เท่านั้นซึ่งก็ไม่แปลก แต่คำถามคือบริษัทของคุณจะยังคงเป็นนายหน้าต่อไปในยุคที่ธุรกิจนายหน้ากำลังจะหายไป?

.

2. Don’t get in the way if you’re not adding value. ถ้าคนอื่นทำได้ดีกว่าก็รีบรู้ตัวและรีบปล่อยให้คนอื่นทำ … อย่าขวางคนอื่นเขา … ในหลายองค์กรเราจะเจอคนที่อยูมานานจน “รู้ทุกเรื่อง” นั่งอยู่หัวโต๊ะบ้างอยู่ในทีมบ้าง คนเหล่านี้ทำงานตามความเคยชินและคิดไปว่ารู้ทุกเรื่อง ปัญหาก็คือสิ่งที่พวกเขาใส่เข้ามาในแต่ละประชุมนั้นนอกจากจะไม่มีประโยชน์อันใดแล้วยังเพิ่มงานให้คนอื่นมาตามแก้หรือตามปรับอีกด้วย

.

3. Don’t be a bureaucrat. สองอย่างแรกเลยสร้างประเด็นที่สามขึ้นมานั่นคือ “ขั้นตอน” ที่มากมายที่ตอนแรกดูเหมือนตั้งใจที่จะทำให้งานเป็นระบบมากขึ้น แต่สุดท้ายปลายทางมันกลับนำไปสู่ “การเมือง” ภายในองค์กร … ดังนั้นคุณควรมีขั้นตอนในการทำงานขององค์กรให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

.

4. Ideas are more important than age. ควรจะเกิดทัศนคติในการทำงานที่ Respect ทางความคิดกันทุกระดับทั่วทั้งองค์กร … ไม่ควรสร้างทัศนคติของการที่เอาแต่ “เคารพผู้อาวุโสในทุกเรื่อง” เพราะสุดท้ายจะทำให้เกิดคนเก่งที่สุดเพราะอาวุโสสูงสุด แล้วข้อ 1 ถึง 3 จะตามมา

.

5. If you say no, you have to help them find a better way to get it done. ไม่ควรมีนิสัยรีบปฎิเสธความคิดของคนอื่น ควรจะสร้างนิสัย “ให้โอกาสคนอื่นเสมอ” … การ Say NO กับความคิดของคนอื่นนั้นมันง่ายมากเลย แต่ถ้ามีกติกาว่าเมื่อคุณปิดโอกาสคนอื่นแล้วคุณต้องช่วยเขาสร้างโอกาสใหม่ขึ้นมาด้วย แบบนี้เท่ากับคุณเป็นคนที่รู้จริง , ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกทำอะไรหรือไม่ทำอะไรและพร้อมจะช่วยเหลือคนอื่น … ถ้าคุณเอาแต่เซย์โนคุณจะรู้สึกถึงความเก่งของคุณ และคุณจะเซย์โนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายก็ไม่มีใครอยากทำงานกับคุณ

.

6. แถม … อย่าโฟกัสที่ “เงิน” แต่ให้มองหาสิ่งที่คุณอยากจะทำหรืออยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงแล้วทำมันให้ดีที่สุด … ถ้าคุณโฟกัสที่เงิน คุณจะ Play safe เพราะหวังว่าเงินจะมาชัวร์ ๆ แล้วไม่นานคุณจะเริ่มเสพติดการได้เงิน ในที่สุดคุณจะทำทุกอย่างเพื่อให้มีเงินเข้ามาอีก … ปัญหาคือ “ทำทุกอย่าง” ในที่นี้ไม่ใช่การ “ทำสิ่งที่ควรทำ” หรือ “ทำสิ่งที่ดีที่สุด”

Top