Skip links

กลัวขายหน้า จึงไม่ก้าวหน้า กลัวถูกปฎิเสธ จึงหยุดตัวเอง เเก้ด้วย Reject…

“กลัวขายหน้า” เส้นกั้นบางๆ ที่ทำให้คนจำนวนมากไม่ก้าวหน้าไปไหน เพราะกลัวความอับอายจึงเลือกที่จะหยุดตัวเองแล้วหันหลังกลับ จึงไม่ต่างกับยอมแพ้

เพราะหากไม่กล้านำเสนอความคิด เพราะกลัว “ถูกปฏิเสธ” คงไม่มีใครได้รับรู้ในความสามารถที่เรามี

หากไม่กล้าถามหรือร้องขอเพราะกลัว “อับอาย” เราจะไม่มีวันได้คำตอบ เหมือนปิดประตูทุกสิ่งไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น

Jia Jiang นักเขียนชาวจีนพูดไว้ใน TED Talk ถึงการถูกทำให้อับอายในวัยเด็ก ซึ่งสร้างแผลในใจเขาให้กลัวการถูกปฏิเสธและความอับอายมาโดยตลอด
จนเขาได้พบกับคำว่า “Rejection Therapy” หรือการบำบัดด้วยการ “ถูกปฏิเสธบ่อยๆ” Jia Jiang ทดลองด้วยตัวเองตามนี้

1 – ยืมเงินคนแปลกหน้า 100 ดอลล่าห์
เป็นการทดลองครั้งแรกที่เต็มไปด้วยความกลัว แน่นอนเขาถูกปฏิเสธ แต่สิ่งที่เขาได้เรียนรู้คือ เราสามารถเชื่อมต่อกับคนได้ “ด้วยเหตุผลที่ดีพอ” เพราะชายร่างใหญ่ที่เขาไปขอยืมเงินถามกลับมาว่า “ทำไม?”

2 – ถามคนแปลกหน้าว่าขอปลูกดอกไม้ในสวนหลังบ้านเขาได้มั้ย
แน่นอนว่าย่อมโดนปฏิเสธ แต่เมื่อลองถามถึงเหตุผลไปว่า “ทำไมถึงปลูกไม่ได้” คนแปลกหน้าจึงเล่าถึงความคิดและเหตุผลของเขาต่างๆ นานาแต่ที่น่าทึ่งคือ เขาได้รับการแนะนำให้ไปที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านเธอเป็นคนรักดอกไม้มากๆ และสุดท้ายก็ได้ปลูกดอกไม้ในบ้านคนแปลกหน้าได้จริงๆ!

3 – ถามอาจารย์มหา’ลัยเพื่อขอสอนในคลาสๆ หนึ่ง
หลังจากโดนปฏิเสธมาหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมสอนในคลาสๆ หนึ่งจนได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาดูมีความพยายามและตั้งใจจริง

การทดลอง Rejection Therapy ทำให้เขาเรียนรู้ว่า

“หากกลัวขายหน้า กลัวถูกปฏิเสธ ก็จะไม่มีวันได้สิ่งที่อยากได้อยากทำ”

แม้กับเรื่องสุดโต่งดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันกลับมีโอกาสเกิดขึ้นได้
แล้วหากเป็นเรื่องปกติทั่วไปของชีวิตและการงาน การสร้างโอกาสให้กับตัวเอง ย่อมดีกว่ามาเสียใจในภายหลัง ที่ทุกอย่างพังเพราะ “ปิดประตูยอมแพ้” อย่างแน่นอน

 

ติดตามเรื่องราวของโลกธุรกิจ ผ่านมุมมองของ HR ได้ที่
https://web.facebook.com/prtr.thailand/

 

เสียใจที่ ทำไม่ได้ ดีกว่าเสียใจที่ “ไม่ได้ทำ” แก้ไขแล้วทำต่อไปให้ดีขึ้น

Top