Skip links

ทำงานให้สุด แล้วหยุดที่ โรงพยาบาล

#งานกระจุย #ป่วยกระจาย
คำที่ว่า ‘งานน้อย’ มันมีอยู่จริงมั้ยคะ?
 
เพราะเวลาทำงาน ก็รู้สึกว่าทำได้ไม่เต็มที่
แถมพอถึงเวลาพักก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนไม่ได้พักเลย
นานๆ เข้าเริ่มรู้สึกถึงร่างจะพัง ลืมตาอีกทีอยู่โรง’บาล แบบนี้จะแย่เอานะคะ
 
ถ้างานที่ทำมันแทรก มันซ้อน เยอะจริงๆ จนหาเวลาทำไม่ทัน อันนี้คงต้องหาทางแก้แล้วล่ะ
 
1.กำหนดช่วงเวลาแห่งการ #Flow ของตัวเองในการทำงาน
ในหนึ่งวันนั้นไม่ว่าชิวิตเราจะยุ่งวุ่นวายขนาดไหน
อย่างน้อย ให้เผื่อเวลา 1-2 ช.ม.
ให้เป็นช่วงเวลาที่ทำงานได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
 
ซึ่ง ‘Flow’ ที่ว่านี้ก็คือช่วงเวลาที่คุณจะมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานเพียงอย่างเดียว จนครบกำหนด ซึ่งในช่วงเวลาที่คุณตั้งเอาไว้นั้น จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวหรือวุ่นวายกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่การทำงานเลย
 
โดยระยะเวลาแห่งการ Flow นี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่คุณจะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้งานมากที่สุดด้วย
 
2. ลองใช้ตัวจัดการเรื่องเวลาอย่าง #TimeBoxing
 
Time Boxing เป็นการผสมกันของ To do list (สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน) + Calendar(ลำดับงานแต่ละสัปดาห์)
 
– ให้ลิสต์ว่าในหนึ่งสัปดาห์คุณจะทำอะไรบ้าง
– ในแต่ละวัน แยกหมวดหมู่ออกเป็นส่วน ๆ ดูว่าสิ่งที่ต้องทำนั้นมีอะไรบ้างเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบริหารเวลา
– เว้นวรรคในแต่ละกิจกรรมที่ตั้งไว้ด้วย เพื่อรับกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง
เช่น งานด่วน หรืองานที่ต้องใช้เวลานานในการเคลียร์ด้วย
 
สิ่งนี้ก็คือตัวช่วยที่จะให้คุณจัดสรรค์เรื่องเวลาในแต่ละวันให้ลงตัวได้มากยิ่งขึ้น
 
3. รู้ว่าเวลาไหนควรจะ #หยุดพัก
ในการจัดสรรเวลาแต่ละวัน หรือทั้งสัปดาห์ คุณต้องไม่ลืมที่จะใส่เวลาในการพักผ่อนเอาไว้ด้วย
มีคำแนะนำว่า การทำงานนั้นควรจะมีช่วงเวลาหยุดพักทุก ๆ 90 นาที หรือ 2 ชั่วโมง โดยอาจจะใช้เวลาพักเพียงแค่ 15 นาที ก็เพียงพอต่อการกลับไปนั่งทำงานต่อได้แล้ว แต่การพักนั้น ก็ไม่ได้หมายความจะต้องหยุดพักทุก ๆ 90 นาที หรือสองชั่วโมงเท่านั้น เพราะหากคุณมีอาการเครียด ปวดหัว หรือปวดตา ก็ควรที่จะหยุดพักในทันที โดยการฝืนทำต่อทั้งที่มีอาการนั้น ไม่ส่งผลดีกับงานของคุณอย่างแน่นอน แถมบางทีอาจจะไม่ได้งานอีกด้วย

4. รู้ว่าการหยุดพักที่ต้องทำอย่างไร

เมื่อรู้ว่าช่วงเวลาที่คุณควรจะหยุดพักจากการทำงานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือ การหยุดพักระหว่างทำงานควรจะต้องทำอย่างไร ซึ่งหลายคนยังคงเข้าใจผิดเช่น หยุดพัก 15 นาที แต่ในช่วงเวลา 15 นาทีนั้น คุณยังคงเปิดอีเมล์ตอบเรื่องงานจากมือถือ หรือยังคงนั่งใช้ความคิดเรื่องแผนในการทำงานต่อ นั้นไม่ใช่การพักที่ดีแน่ โดยการพักที่เหมะสมที่สุดนั้น ทำได้ดังนี้

การออกกำลังกายแบบเบา ๆ

มีคำแนะนำว่าการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ในช่วงพักนั้นจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เพราะเมื่อร่างกายได้เสียเหงื่อจากการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย ก็จะหลั่งสารที่ช่วยลดความเครียดได้ ทำให้มีสมรรถภาพในการทำงานที่ดีขึ้นได้

การยืดเส้นคลายกล้ามเนื้อ

อีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพียงแค่ทำท่ายืดคลายกล้ามเนื้อที่ช่วยให้คลายจากการปวดหลังและปวดคอ ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น มีผลในการช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

ทานอาหารว่าง

หากว่าที่ทำงานของคุณไม่ได้มีกฏห้ามทานของว่างบนโต๊ะทำงานแล้วละก็ ช่วงเวลาพัก 15 นาทีนี้ ควรจะใช้ไปกับการทานของว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ หรือพืชรตระกูลถั่วต่าง ๆ รวมทั้งดาร์กช็อกโกแลตที่มีผลต่อการลดความเครียด ก็เป็นตัวช่วยสร้างความผ่อนคลายให้ได้เหมือนกัน แต่ก็มีข้อควรระวังว่าไม่ควรทานเยอะเกินไป และอย่าทานจนเลยเวลาพักที่ตั้งไว้ด้วยนะ

 

รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่เต็มที่กับการทำงานทั้งวัน จนไม่เหลือเวลาให้กับการพักเลย ก็คงจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดกันใหม่ เพราะความทุ่มเทในการทำงานเพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพก็เป็นได้

.
.
#PRTR #PeopleAreKey
#Recruitment #TotalHRSolutions #หาคน #หางาน
.
.
สร้างโปรไฟล์สมัครงาน http://job.prtr.com/user/register
เช็คตำแหน่งงานว่างได้ที่ http://job.prtr.com/
อัพเดทตำแหน่งงานว่างได้ที่ Line@: http://line.me/ti/p/~@prtr
Top